Main Menu

Recent posts

#11
แนวไหนนิ  ;D
#12

Kawasaki Versys-X 300 นั้นนับว่าเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ไบค์รุ่นใหม่ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เเรงพร้อมลุยไปในทุกสภาพถนนตลอดเวลาตามเเบบฉบับรถจากตระกูล Versys พร้อมให้คุณได้โลดแล่นไปกับการผจญภัยครั้งใหม่ และก้าวไปข้างหน้าสู่การเพลิดเพลินในการขับขี่ผจญภัยในทุกเส้นทาง

ขนาดของตัวรถ Kawasaki Versys-X 300 ก็นับว่าน่าสนใจด้วยขนาดความกว้างอยู่ที่ 860 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,170 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,390 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร ส่วนความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 180 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะนั่งที่ 845 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 17 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 175 กิโลกรัม

ทางด้านของสมรรถนะนั้น Kawasaki Versys-X 300 มีขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 296 ซีซี โดยเครื่องยนต์เป็นเเบบ สูบคู่ขนาน 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 8 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 62.0 x 49.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 10.6 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา โดยมีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 สปีด, ย้อนกลับ โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ ดิจิตอล ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นเเบบ หัวฉีดเชื้อเพลิง  ø36 มิลลิเมตร x 2 ชุดมาพร้อมลิ้นเร่งคู่ โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า

Kawasaki Versys-X 300 นั้นมาพร้อมกับเฟรมรุ่นใหม่ ทำให้มีน้ำหนักเบา ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็น ø41 mm telescopic fork ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Bottom-Link Uni-Trak, gas-charged shock and adjustable preload  ระบบเบรคด้านหน้าจะเป็นเเบบ Single ø290 mm petal disc, Single balanced actuation dual-piston ระบบเบรคด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø220 mm petal disc, Dual-piston โดยที่ยางหน้ามีขนาด 100/90-19M/C 57S ส่วนยางหลังมีขนาด 130/80-17M/C 65S หน้าเเสดงผลการขับขี่เป็นจอสี TFT LCD โคมไฟหน้าขนาดใหญ่เเบบ LED พร้อมไฟท้ายที่สว่าง ส่วนอุปกรณ์เสริมก็มีทั้งกระเป๋าข้างแบบแข็ง ไฟตัดหมอก LED ช่องจ่ายไฟ DC การ์ดแฮนด์ และขาตั้งคู่ ส่วนรุ่น City โดยตัวบอดี้มีสีมาให้เลือก 4 สีด้วยกันทั้งสี GRAY (CITY) (2022), สี GRAY CAMO (2020), สี METALLIC MOONDUST GREY / METALLIC FLAT SPARK BLACK (CITY) (2020) เเละสี CANDY LIME GREEN / METALLIC GRAPHITE GRAY (CITY) (2017) ถือว่าสวยงามทุกสีเลยทีเดียว

โดยราคาของ Kawasaki Versys-X 300 นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 209,900 บาท สำหรับรุ่นที่มีสี GRAY (CITY) (2022) กับสี METALLIC MOONDUST GREY / METALLIC FLAT SPARK BLACK (CITY) (2020) ส่วนรุ่นที่มีสี GRAY CAMO (2020) จะมีราคาขายที่ 240,400 บาท เเละรุ่นที่มีสี CANDY LIME GREEN / METALLIC GRAPHITE GRAY (CITY) (2017) จะมีราคาขายที่เรท 199,000 บาท
#13

Kawasaki Ninja 250 เป็นอีกรุ่นในตระกูลนินจาที่เปิดตัวมาตั้งเเต่แ 2008 เเละมีการพัฒนาต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน เพราะมันเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดโลกของคาวาซากิ เเละเป็นประสบการณ์ครั้งเเรกของใครหลายๆ คนในการสัมผัสกับความเร็วสไตล์คาวาซากิ นินจา โดยที่รุ่นล่าสุดนั้นได้รับการออกเเบบมาให้มีสมรรถนะที่สูงมากขึ้น โฉบเฉี่ยวมากขึ้น เเต่กลับมีน้ำหนักที่เบาลง เรียกว่าน่าสนใจมากสำหรับนินจารุ่นนี้

Kawasaki Ninja 250 มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความน่าสนใจไม่น้อยสำหรับรถขนาดกลาง โดยมันมาพร้อมกับความกว้างอยู่ที่ 710 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 1,990 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,125 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,370 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 145 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 795 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 14 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 167 กิโลกรัม เรียกว่าสมส่วนใช้ได้เลยทีเดียว

Kawasaki Ninja 250 นั้นมีเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ทรงสมรรถนะเป็นอย่างยิ่ง โดยมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 249 ซีซี ที่เป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke Parallel Twin มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 8 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 62 x 41.2 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.6 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ  Wet multi-disc, manual โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed, return  โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital ส่วนระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø32 mm x 2 โดยมีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric เรียกว่าสมรรถนะสูงไม่ใช่ย่อยสำหรับรถเล็กๆ เเบบนี้

Kawasaki Ninja 250 มาพร้อมกับเฟรมที่มีโครงรถคล้ายกันกับการออกแบบโครงรถสำหรับ Ninja H2 ทางด้านระบบกันสะเทือนหน้านั้นเป็นเเบบ โช๊คอัพแบบ Telescopic มีความยืดหยุ่นสูง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร สามารถรองรับการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า ส่วนระบบกันสะเทือนหลังนั้นจะเป็นเเบบ Bottom-link Uni-Trak with gas-charged shock with adjustable preload โดยที่คาลิปเปอร์หน้าจะเป็น Single balance actuation dual piston ส่วนคาลิปเปอร์หลังจะเป็นเเบบ Dual piston โดยมีเบรกหน้าเเบบ Single semi-floating ø310 mm petal disc ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบ Single ø220 mm petal disc มีขนาดยางหน้าเเบบ 110/70R17M/C (54H) ส่วนยางหลังเเบบ 140/70-17M/C (66H) หน้าจอเเสดงผลเป็นรูปเเบบใหม่ที่ขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ all-digital TFT colour โคมไฟหน้ามีความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวสวยงาม รวมไปถึงไฟเลี้ยวทั้งสองข้างและไฟท้าย โดยโคมไฟเป็นเเบบ LED ที่ได้สัดส่วน โดยที่ด้านหนึ่งไฟต่ำ อีกด้านหนึ่งไฟสูง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนและเพิ่มความสว่างได้มากขึ้น เเละมี 2 สีมาให้เลือก คือสี METALLIC CARBON GRAY/METALLIC FLAT SPARK BLACK (2022) กับสี PASSION RED (2021)

สนราคาของ Kawasaki Ninja 250 นั้นมีการประกาศราคาขายออกมาที่ 193,900 บาท
สำหรับสีเเบบ METALLIC CARBON GRAY/METALLIC FLAT SPARK BLACK (2022) เเละ 181,900 บาท สำหรับสีเเบบ PASSION RED (2021)
#14

Ducati SuperSport เป็นรถจักรยานยนต์อีกรุ่นของดูคาติที่บ่งบอกถึงความเป็นอิตาเลี่ยนสไตล์ ที่ไม่ว่าจะขับขี่ไปที่ไหน ผู้คนที่พบเห็นก็จะรู้ในทันทีว่าคือดูคาติ

Ducati SuperSport มีมิติตัวรถที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ดัวยน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 183 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 210 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 810 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,478 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 91 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 16 ลิตร

Ducati SuperSport  มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ Testastretta 11°, L-Twin cylinder, 4 valve per cylinder, Desmodromic, liquid cooled ที่มีขุมพลังขนาด 937 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 94 x 67.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 12.6 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 110 เเรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 93 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection system, Æ 53 mm throttle bodies with full Ride-by-Wire ส่วนระบบไอเสียจะเป็น Lightweight 2-1-2 system with catalytic converter and two lambda probes. Twin aluminium mufflers มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed

เฟรมของ Ducati SuperSport ได้รับการออกเเบบมาใหม่ในเเบบ Tubular steel Trellis frame attached to the chylinders head ที่ได้รับการออกเเบบใหม่มาเป็นอย่างดี มีความเเข็งเเกร่งเเละทนทานสูง ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Fully adjustable Æ 43 mm usd Marzocchi fork ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Progressive linkage with adjustable Sachs monoshock. Aluminium single-sided swingarm ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ 2 x 320 mm semi-floating discs, radially mounted Monobloc Brembo M4-32 callipers, 4-piston, radial pump with Bosch ABS ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ 245 mm disc, 2-piston caliper, Bosch ABS  ส่วนล้อหน้าจะเป็น Y shaped, 3-spoke in light alloy 3.50" x 17" ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบ Y shaped, 3-spoke in light alloy 5.50" x 17" โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 180/55 ZR17 โคมไฟหน้าเป็นเเบบสปอร์ตมีไฟสองดวงเเบบ full-LED headlight ทั้งสองดวง พร้อมก้านกระจกมองหลังที่มีไฟเลี้ยว รับกับกระจังบังลมหน้าทรงสปอร์ต ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียคู่ดูดุดัน พร้อมกับหน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ TFT colour พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีเป็นเฉดเดียวคือสีเเดง Ducati Red ที่คงความเป็นดูคาติอย่างแท้จริง

ราคาขายของ Ducati SuperSport  นั้นเคาะออกมาที่เรา 559,000 บาท ถือว่าเป็นรถอีกรุ่นที่น่าสนใจ
#15

Ducati Multistrada V2 ปี 2023 ถือว่าเป็นรถจักรยานยนต์ในตระกูล Multistrada ของดูคาติที่พกพาสมรรถนะที่สูงเเละน่าสัมผัสกับการขับขี่อย่างยิ่ง

Ducati Multistrada V2 ได้รับการออกเเบบมาได้อย่างสมส่วนด้วยการมีขนาดน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 199 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 209 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 840-860 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,595 มิลลิเมตร ส่วนมุม Rake อยู่ที่ 25.75 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 22 ลิตร เบาะนั่งมี 2 ที่นั่ง

Ducati Multistrada V2 มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ Ducati Testastretta 11°  โดยมีขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 937 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 83 x 53.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 14.0 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 113 เเรงม้าที่ 10,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 125 นิวตันเมตรที่ 8,750 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นElectronic fuel injection system, Øeq 46 mm elliptical throttle bodies with Ride-by-Wire system ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบ Stainless steel muffler, double catalytic converter and 4 lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed with Ducati Quick Shift (DQS) up/down ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears, ratio 1.8:1 มีอัตราที่ 1=40/13, 2=36/16, 3=34/19, 4=31/21, 5=29/23, 6=27/25 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Chain, front sprocket z16, rear sprocket z42 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ 8-disc hydraulic clutch นับว่าเป็นอีกรุ่นที่มีสมรรถนะสูงอย่างยิ่ง

Ducati Multistrada V2 มีเฟรมที่รับการออกเเบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในเเบบ Aluminum monocoque frame ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็น 48 mm diameter upside-down ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Öhlins TTX36 fully adjustable monoshock, electronic compression and rebound damping adjustment with Öhlins Smart EC 2.0 event-based mode, electronic preload adjustme ในส่วนของระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเเบบ 2 x Ø 330 mm semi-floating discs, radially mounted Brembo Stylema monobloc 4-piston 2-pad callipers, radial master cylinder, Cornering ABS ส่วนเบรกหลังจะเป็น Ø 265 mm disc, Brembo 2-piston floating calliper, Cornering ABS ส่วนล้อหน้าจะเป็นเเบบ Marchesini light alloy forged, 3.5" x 17" เเละล้อหลังเป็นเเบบ Marchesini light alloy forged, 6" x 17" โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso IV 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso IV 190/55 ZR17 โคมไฟหน้าได้รับการออกเเบบใหม่เเละเป็นเเบบ full-LED headlight พร้อมกับมี LED Daytime ไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด หน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ TFT colour พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีมาให้เลือกเเค่สีเดียว คือสีเเดง

โดยทางด้านราคาขายของ Ducati Multistrada V2 นั้นเคาะออกมาที่ 689,000 บาท ถือเป็นรถเเรงๆ อีกรุ่นของดูคาติ
#16

Roadsters ของไทรอัมพ์ นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยรูปโฉมเเละสมรรถนะที่ตอยสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี อย่างรุ่น Triumph STREET TRIPLE RS ก็เป็นอีกหนึ่งในรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน

Triumph STREET TRIPLE RS มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความน่าสนใจ โดยมีแฮนด์บาร์กว้าง 775 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,085 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 825 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,405 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 23.9 º ส่วน เทรล อยู่ที่ 100 มิลลิเมตร ถังนำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 17.4 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 166 กิโลกรัม โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.2 ลิตร/100 กิโลเมตร

Triumph STREET TRIPLE RS มาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์เเบบ 3 สูบแถวเรียงแบบ DOHC 12 วาล์ว ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว มีขุมพลัง 765 ซีซี กระบอกสูบขนาด 77.99 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 53.4 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 12.54:1 สามารถให้กำลังที่ 121.36 เเรงม้าที่ 11,750 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 79 นิวตันเมตรที่ 9,350 รอบต่อนาที โดยมีระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องแบบ Multipoint พร้อม SAI  ระบบไอเสียจะเป็นเเบบระบบท่อไอเสียสแตนเลสสตีลแบบ 3 ออก 1 พร้อมปลายท่อเดี่ยวออกข้าง ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่เอกซ์ริง ทำงานร่วมกับระบคลัตช์เเบบคลัตช์เปียกแบบหลายแผ่นพร้อมระบบช่วยผ่อนแรง พร้อมด้วยระบบเกียร์เเบบ 6 สปีดพร้อมระบบ Triumph Shift Assist

Triumph STREET TRIPLE RS  มีเฟรมเป็นเเบบโครงคู่อะลูมิเนียมที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นเเบบโครงอะลูมีเนียมหล่อด้วยแรงดันสูง 2 ชิ้น  สวิงอาร์มเป็นเเบบสวิงอาร์มแขนคู่อะลูมีเนียมอัลลอยหล่อขึ้นรูป โดยที่ล้อหน้า จะเป็นเเบบอะลูมิเนียมอัลลอยหล่อขึ้นรูป แบบหลายก้าน ขนาด 17 x 3.5 นิ้ว ส่วนล้อหลัง เป็นเเบบอะลูมิเนียมอัลลอยหล่อขึ้นรูป แบบหลายก้าน ขนาด 17 x 5.5 นิ้ว ยางหน้ามีขนาด 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังมีขนาด 180/55 ZR17 ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหน้า เป็นเเบบโช้คหน้าแบบกลับหัว Big Piston ของ Showa ขนาด 41 มิลลิเมตร (BPF) ปรับความหน่วงของการยุบ การคืนตัว และพรีโหลดแบบปรับได้ ส่วนระบบกันสะเทือนหลัง เป็นเเบบโช้คหลังเดี่ยว Öhlins STX40 พร้อมกระปุกน้ำมันแยก ปรับความหน่วงของการยุบ การคืนตัว และพรีโหลดแบบปรับได้ ทางด้านของระบบเบรกนั้นเบรกหน้า จะเป็นเเบบจานเบรกคู่แบบลอยตัวขนาด 310 มิลลิเมตร และเรเดียลคาลิปเปอร์ 4 สูบ โมโนบล็อค Brembo M50 ส่วนเบรกหลัง จะเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว Brembo ระบบ ABS แบบเปิด-ปิดได้ โดยที่แผงหน้าปัดและฟังก์ชันจะมีเรือนไมล์จอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมสไตล์หน้าจอที่แตกต่างกัน 4 แบบและตัวเลือกแบบความคมชัดสูง/ต่ำ โดยตัวบอดี้มี 2 สีให้เลือกด้วยกันทั้งสีดำ-เเดง เเละสีดำ-เหลือง

ทางด้านของราคาขาย Triumph STREET TRIPLE RS  นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 490,000 บาท
#17

Triumph NEW SCRAMBLER 1200 XE CHROME EDITION นั้นถือว่าเป็น Chrome Edition ของไทรอัมพ์อีกรุ่นที่มีการตกแต่งพื้นผิวอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ด้วยตัวถังที่ชุบโครเมียมมาอย่างงดงาม เเละงานทำสีพิเศษนี้ ก็ทำขึ้นมาเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น เเละมีการเก็บรายละเอียดด้วยชิ้นส่วนอะลูมิเนียมปัดเงา เรียกว่าน่าสัมผัสอย่างยิ่ง

โครงสร้างตัวรถของ Triumph NEW SCRAMBLER 1200 XE CHROME EDITION ก็มีความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 905 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,250 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 870 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,570 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 26.9 º ส่วนเทรลอยู่ที่ 129.2 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 16 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 207 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.6 ลิตร/100 กิโลเมตร

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Triumph NEW SCRAMBLER 1200 XE CHROME EDITION ถือว่าร้อนเเรงเป็นอย่างยิ่ง โดยมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ในเเบบสูบคู่ขนานแบบ SOHC 8 วาล์วระบายความร้อนด้วยของเหลว องศาจุดระเบิดเยื้องกัน 270 องศา ที่มีขุมพลังขนาด 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 90 เเรงม้าที่ 7,250 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 110 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงหลายจุดเป็นลำดับแบบอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนระบบท่อไอเสียเป็นเเบบท่อไอเสียคู่ยกสูงเข้า 2 ออก 2 ผิวปัดเงา พร้อมท่อเก็บเสียงคู่ ทางด้านของไฟนอลไดรฟ์จะเป็นเเบบระบบโซ่ X ring โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตซ์เปียกผ่อนแรงแบบหลายแผ่น ทางด้านระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

Triumph NEW SCRAMBLER 1200 XE CHROME EDITION มีเฟรมเเบบ โครงเหล็กคู่ เสริมเปลอะลูมิเนียม ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบแขนคู่อะลูมิเนียม โดยที่ล้อหน้าเป็นเเบบวงล้ออะลูมิเนียมซี่ลวด 36 ก้านแบบไร้ยางใน ขนาด 21 x 2.15 นิ้ว ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบวงล้ออะลูมิเนียมซี่ลวด 32 ก้านแบบไร้ยางใน ขนาด 17 x 4.25 นิ้ว ส่วนยางหน้ามีขนาด 90/90-21 ยางหลังมีขนาด 150/70 R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ โช้คหัวกลับ Showa ขนาด 47 มิลลิเมตร ระยะยุบตัว 250 มิลลิเมตร ปรับตั้งได้สมบูรณ์  ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช้ค Ohlins คู่พร้อมกระบอกสำรองน้ำมัน ปรับตั้งได้สมบูรณ์ ระยะยุบตัวล้อหลัง 250 มิลลิเมตร โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานเบรกคู่ Brembo ขนาด 320 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกโมโนบลอค Brembo M50 สี่สูบแบบเรเดียล  ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยวขนาด 255 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์แบบลอยตัว สองลูกสูบจาก Brembo และระบบ ABS โดยมีหน้าจอเเสดงผลการขับขี่เป็นเเบบแผงหน้าปัด TFT แบบ Full Colourโคมไฟหน้าทรงกลมดวงใหญ่ 1 ดวง พร้อมไฟเลี้ยว เบาะนั่งยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ตัวบอดี้มีสีเขียวคาดตัวถังชุปโครเมียมสวยงามลงตัวเป็นอย่างยิ่ง

ทางด้านราคาขายของ Triumph NEW SCRAMBLER 1200 XE CHROME EDITION นั้นเคาะออกมาอยู่ที่เรท 700,000 บาท เเละมีการวางจำหน่ายเพียง 1 ปีเท่านั้น
#18

Triumph Bonneville T120 เป็นมอเตอร์ไบค์สไตล์ โมเดิร์นคลาสสิก ที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวซึ่งแฝงด้วย DNA ตามแบบฉบับของ Bonneville รุ่นแรก เรียกว่าเเรงถึงใจทำให้คุณได้สัมผัสถึงความคลาสสิคของไทรอัมพ์อย่างเต็มอณู

มิติตัวรถของ Triumph Bonneville T120 นั้นมีความกว้างของแฮนด์รถที่ 785 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,100 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 790 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.5 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 105.2 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 213 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.5 ลิตร/100 กิโลเมตร
สมรรถนะของเครื่องยนต์ Triumph Bonneville T120 ถือว่าเเรงเเละดุดัน โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ในเเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา โดยมีขุมพลังขนาด 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 10.0:1 สามารถให้กำลังที่ 80 เเรงม้าที่ 6,550 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 105 นิวตันเมตรที่ 3,100 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ แบบ Multipoint sequential ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบท่อไอเสียสแตนเลสชุบโครมเมี่ยมแบบ 2 ออก 2 ท่อเก็บเสียงคู่สแตนเลสชุบโครมเมี่ยม ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่ โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph Bonneville T120
จะเป็นเเบบโครงเหล็ก ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบโครงเหล็กแขนคู่ ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบล้อซี่ลวด วงล้อเหล็กขนาด 18 x 2.75 นิ้ว ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบล้อซี่ลวด วงล้อเหล็กขนาด 17 x 4.25 นิ้ว ส่วนยางหน้ามีขนาด 100/90-18 ยางหลังมีขนาด 150/70-R17โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช๊ค KYB 41 มิลลิเมตร, ระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช๊คสปริงคู่ KYB ปรับความแข็งได้ ระยะยุบตัวล้อหลัง 120 มิลลิเมตร โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานเดี่ยว 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบลอยพร้อม ABS โดยหน้าจอเป็นแผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชั่น LCD พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก มาตรวัดรอบแบบอนาล็อก มาตรวัดระยะทาง บ่งบอกตำแหน่งเกียร์ เกจน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุระยะที่เดินทางได้ก่อนน้ำมันหมด บ่งชี้เวลาเข้ารับบริการ นาฬิกา บันทึกระยะการเดินทาง 2 ค่า อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยและค่าปัจจุบัน แสดงสถานะระบบควบคุมการยึดเกาะถนน รองรับระบบควบคุมความเร็วคงที่และปลอกมืออุ่นร้อน โคมไฟน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะเดี่ยวจำนวนสองที่นั่ง ตัวบอดี้มีสีดำ สวยงามเเละดุดันอย่างยิ่ง

ราคาขายของ Triumph Bonneville T120 อยู่ที่เรทราคา 549,000 บาท
#19

Harley-Davidson LOW RIDER ST ปี 2023 คือรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตทัวร์ริ่ง American V-Twin จะพาคุณหลีกหนีความวุ่นวายออกไปท่องโลกในช่วงสุดสัปดาห์ รุ่นนี้เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบสไตล์หมดจดสะอาดตา แต่ก็ปรารถนาสมรรถนะที่ดุดัน นับว่าเป็น Cruiser อีกหนึ่งรุ่นของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ที่ไม่ควรพลาด

Harley-Davidson LOW RIDER ST ปี 2023 นั้นมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถที่มีความยาว 2,365 มิลลิเมตร ส่วนทางด้านของระดับความสูงเบาะ ขณะไม่ได้บรรทุก อยู่ที่ 720 มิลลิเมตร ระยะใต้ท้องรถอยู่ที่ 150 มิลลิเมตร ส่วนระยะเยื้องของตะเกียบหน้าอยู่ที่ 28 ในขณะที่ส่วนท้ายมีขนาด 145 มิลลิเมตร ฐานล้อมีระยะ 1,615 มิลลิเมตร ยางล้อหน้าเป็นเเบบ 110/90B19,62H,BW ส่วนยางล้อหลังเป็นเเบบ 180/70B16,77H,BW โดยที่ยางจะแบบ Michelin Scorcher "31" หน้าและหลัง โดยมีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 18.9 ลิตร ส่วนความจุน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองอยู่ที่ 4.7 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักขณะขนส่งอยู่ที่ 315 กิโลกรัมเเละมีน้ำหนักพร้อมขับขี่อยู่ที่ 327 กิโลกรัม

สมรรถนะของ Harley-Davidson LOW RIDER ST ปี 2023 ก็นับว่าเเรงไม่เบาเมื่อมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น Milwaukee-Eight 117 V-Twin ที่มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,923 ซีซี มีความกว้างของกระบอกสูบ 103.5 มิลลิเมตร มีจังหวะขึ้นลงของลูกสูบที่ 114.3 มิลลิเมตร โดยมีอัตราส่วนการอัดที่ 10.2:1 มีระบบเชื้อเพลิงเป็นระบบช่องฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แบบต่อเนื่อง (ESPFI) เเละมีท่อไอเสีย catalyst แบบออฟเซ็ต 2-ออก-2  โดยแรงบิดเครื่องยนต์อยู่ที่ 159 Nm มีแรงบิดเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) อยู่ที่ 3500 ให้กำลังเเรงม้าที่ 97 HP / 72 kW @ 5020 rpm ส่วนมุมเลี้ยวขวาอยู่ที่ 31.3 องศา ส่วนมุมเลี้ยวซ้ายอยู่ที่ 31.3 องศา ส่วนวิธีทดสอบการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นเเบบ EU 134/2014 ทำให้มีการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.5 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนหลักเป็นเกียร์ 6 สปีด มีอัตราทดของโซ่ 34/46

Harley-Davidson LOW RIDER ST ปี 2023 มีเฟรมที่ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดีเเละมีความเเข็งเเกร่งสูง ส่วนที่แชสซีจะมี โช้คหน้าเป็นเเบบโช้คกระบอกเดี่ยวขนาด 43 มิลลิเมตร แบบกลับด้าน พร้อมทริปเปิลแคลมป์อะลูมิเนียม และสปริงแบบซิงเกิ้ลเรต ส่วนโช้คหลังเป็นเเบบลูกสูบแบบซ่อนทำงานอิสระ โช้คเดี่ยวพร้อมสปริง ระยะชัก 56 มิลลิเมตร และปรับพรีโหลดแบบไฮดรอลิก ล้อหน้าเเละล้อหลังจะเป็นเเบบ ล้ออะลูมิเนียมขึ้นรูปแบบเรเดียล สีบรอนซ์เข้ม โดยที่จานเบรกเป็นเเบบจานเบรกแบบลอย แยก 7 ก้าน ด้านหน้าและด้านหลัง สีดำ มีคาลิเปอร์เบรก เเบบ 4 ลูกสูบหน้ายึดกับที่และ 2 ลูกสูบหลังปล่อยลอย ส่วนโคมไฟหน้าทรงกลมใหญ่คลาสสิคสวยงามสอดรับกับฝาครอบขนาดใหญ่อย่างลงตัว โดยที่ไฟหน้าแบบ LED ทั้งหมดที่ประกอบด้วยไฟต่ำ ไฟสูง และตำแหน่งไฟที่เป็นเอกลักษณ์, ไฟท้ายแบบ LED Zeppelin, สัญญาณไฟเลี้ยวแบบหลอดไส้ทรง Bullet ส่วนมาตรวัดความเร็วรอบระบบอนาล็อกขนาด 4 นิ้ว พร้อมเกจวัดความเร็วดิจิตอล, เกียร์, มาตรวัดระยะทาง, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, นาฬิกา, บันทึกระยะทาง และการวัดระยะทางที่ขับขี่ได้ พร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ตัวถังมี 2 สีมาให้เลือกกัน ทั้งสีดำ VIVID BLACK, สีแดง Redline Red และสีขาว White Sand Pearl

สนราคาของ Harley-Davidson LOW RIDER ST ปี 2023 นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 1,226,000 บาท
สำหรับตัวถังที่มีสีดำ VIVID BLACK, เเละราคา 1,231,000 บาท สำหรับตัวถังที่มีสี White Sand Pearl


#20

BMW G 310 R คือความท้าทายใหม่ในการขับขี่รถจักรยานยนต์เเนวโรดสเตอร์ในเมือง โดยมันพกพาสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ร้อนเเรงเเละรูปลักษณ์ใหม่ที่ท้าทายทุกสายตา

BMW G 310 R มาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยขนาดความยาวอยู่ที่ 2,005 มิลลิเมตร ความสูงรวมแผ่นบังลมอยู่ที่ 1,080 มิลลิเมตร ความกว้างรวมกระจกอยู่ที่ 849 มิลลิเมตร  ส่วนความสูงเบาะอยู่ที่ 785 มิลลิเมตร ระยะหว่างขาอยู่ที่ 1,760 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 11 ลิตร ปริมาณน้ำมันสำรองประมาณ 1 ลิตร น้ำหนักรวมบรรทุกสูงสุดอยู่ที่ 345 กิโลกรัม น้ำหนักด้านข้างตัวรถ พร้อมสำหรับการขับขี่ น้ำมันเต็มถัง 165 กิโลกรัม

BMW G 310 R มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบสี่จังหวะกระบอกสูบเดียวที่ระบายความร้อนด้วยน้ำพร้อมด้วยสี่วาล์วที่ควบคุมด้วยคันตะเกียบยกวาล์วต่อกระบอกสูบ เพลาลูกเบี้ยวสองตัวที่วางซ้อนกันและการหล่อลื่นแบบ Wet Sump มี รู x ช่วงชัก อยู่ที่ 80 มิลลิเมตร X 62.1 มิลลิเมตร ความจุของกระบอกสูบขนาด 313 ซีซี ให้กำลัง 34 แรงม้า ที่ 9,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 28 นิวตันเมตร ที่ 7,500 รอบต่อนาที ส่วนอัตรากำลังอัดอยู่ที่ 10.9:1 มีการเตรียมเชื้อเพลิงเป็นเเบบระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนการควบคุมการปล่อยไอเสียเป็นเเบบวงจรปิดอุปกรณ์ที่ช่วยลดสารเป็นพิษในระบบท่อไอเสีย 3 ทาง, มาตรฐานการปล่อยไอเสีย EU-5 โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 143 กิโลเมตร/ชั่วโมง เเละมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 3.3 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร โดยประเภทน้ำมันที่ใช้จะเป็นเเบบ น้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่ว รองรับค่าออกเทน 91 ขึ้นไป ส่วนไดชาร์จเป็นเเบบ เจนเนอเรเตอร์สามเฟสขนาด 308 วัตต์ แบตเตอรี่ เป็นเเบบ 12 โวลต์ / 8 แอมป์ชั่วโมง ไม่ต้องบำรุงรักษา ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบคลัตช์แบบหลายแผ่นในอ่างน้ำมันหล่อลื่น พร้อมระบบเกียร์เเบบ 6 สปีด ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนเเบบ โซ๋ X-ring และยางกันกระชากดุมล้อ

ส่วนเฟรมของ BMW G 310 R เป็นเเบบ Tubular space frame ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าเเบบ โช้คหัวกลับขนาด Ø41 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นเเบบ สวิงอาร์มอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป, สปริงโช๊คอัพกลางควบคุมเลี้ยวโดยตรง, ฐานระบบสปริงปรับได้ โดยที่ระยะการเคลื่อนที่ของระบบกันสะเทือนหน้า/หลังอยู่ที่ 140 มิลลิเมตร / 131 มิลลิเมตร ระยะฐานล้ออยู่ที่ 1,380 มิลลิเมตร มุมแคสเตอร์อยู่ที่ 114 มิลลิเมตร มุมแฮนด์รถอยู่ที่ 64.9 องศา โดยล้อเป็นเเบบ ล้ออะลูมิเนียมหล่อ โดยขนาดล้อหน้าอยู่ที่ 3.00" x 17" ขนาดล้อหลังอยู่ที่ 4.00" x 17" โดยที่ขนาดยางล้อหน้าอยู่ที่ 110/70 R17 ส่วนขนาดยางล้อหลังอยู่ที่ 150/60 R17 ระบบเบรคล้อหน้าเป็นเเบบดิสก์เบรคเดี่ยว ขนาด Ø 300 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์สี่ลูกสูบ ส่วนระบบเบรคล้อหลังเป็นเเบบดิสก์เบรคเดี่ยว ขนาด Ø 240 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ส่วนระบบ ABS เป็นเเบบ BMW Motorrad ABS โดยที่โคมไฟหน้า LED และไฟกระพริบ LED ในรุ่นมาตรฐาน ส่วนเบาะที่นั่งที่ถูกหลักการยศาสตร์ ตัวบอดี้มี 2 เฉดสีให้เลือกคือสี Kyanite blue metallic กับสี Style Sport Polar white/Racing blue metallic

สนราคา BMW G 310 R นั้นเคาะราคาเริ่มต้นออกมาที่ 265,000 บาท