Main Menu

Recent posts

#1

ถ้าถามว่ารถอีโคคาร์แฮทช์แบ็ค รุ่นไหนที่ได้รับความนิยมที่สุดในไทย และราคาเข้าถึงได้ เสียงส่วนใหญ่ต้องยกให้กับ TOYOTA YARIS อย่างแน่นอน เป็นรถที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน มีจุดเด่นที่ตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่ ขับขี่สบาย คล่องตัว อีกทั้งราคายังเข้าถึงได้ง่าย สำหรับ TOYOTA YARIS Premium S เป็นรุ่นท็อปสุด ดังนั้นของที่ได้จึงมีความพิเศษกว่าตัวรองลงไป

ขุมกำลังของ TOYOTA YARIS Premium S 2023
TOYOTA YARIS รุ่น Premium S เป็นรุ่นที่พัฒนาเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
•   มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 3NR-FKE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-iE
•   ความจุดของกระบอกสูบอยู่ที่ 1197 ซีซี
•   ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 92 แรงม้าที่/ 6,000 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ 109 / 4,400 นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที
•   ความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร
•   อัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

ดีไซน์ภายนอก
มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อมด้วย LED Light Guiding ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding หลังคาเป็นวัสดุตกแต่งที่สปอยเลอร์หลังคาและกระจกหลัง กระจังด้านหน้าเป็นแบบโครเมียม ทำให้ดูหรูหรามากขึ้น ที่ปัดน้ำฝนเป็นแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ กระจกบังลมหน้าเป็นแบบกันเสียงรบกวน กันชนด้านหน้าแนวสปอร์ต ตกแต่งด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์กลาส

ดีไซน์ภายใน
มีการตกแต่งที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ด้วยหนังสังเคราะห์และผ้าด้ายสีเทา สีภายในใช้เป็นสีโทน ดำ-แดง ให้ความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น พวงมาลัยเป็นรถบบไฟฟ้า EPS หุ้มด้วยหนังพิเศษ คอนโซลรถมาด้วยสีน้ำเงินเข้มเมทัลลิก กระจกหน้าต่างเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด มีกระจกแต่งหน้าที่แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกับไฟในห้องโดยสาร

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
จอแสดงผลในรถเป็นแบบ แบบจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว เครื่องเสียงในตัวรถเป็นแบบ หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว สามารถเชื่อมตัวกับ ระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ สามารถรองรับระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth มีระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารอัตโนมัติ และกล้องวิดีโอบันทึก
ภาพติดรถยนต์

ระบบความปลอดภัยของ TOYOTA YARIS Premium S 2023
สำหรับ TOYOTA YARIS Premium S 2023 มีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่าเดิม  โดยมีถุงลมนิรภัย 4 จุดคือ คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ มีระบบช่วยเตือนเมื่ออยู่ในมุมอับสายตา มาพร้อมกับกล้องมองรอบคัน เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น รถบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อคแบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD เข็มขัดนิรภัยเป็นแบบผ่อนแรง และระบบเตือนให้คาดเข็มขัด

ราคา
TOYOTA YARIS Premium S 2023 มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 694,000 บาท


เมื่อเปรียบเทียบดูราคารถ กับสิ่งที่ได้มานั้น จะเป็นว่าคุ้มค่าสุดๆ เป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ หากท่านต้องการความคล่องตัวในการขับขี่ โดยเฉพาะการขับในเมือง รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุด เมื่อเทียบกับรถคลาสเดียวกันของยี่ห้ออื่น
#2

แบรนด์ชื่อดังที่คนไทยนิยมกันอย่างมาก Honda ที่ไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเสมอๆ แล้วรุ่นที่มีชื่อว่า Jazz ก็ได้ครองใจแฟนๆมาเสมอ แล้วในรุ่น Honda Jazz 2023 ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นปีปัจจุบัน 2023 แต่ประสิทธิภาพของรถที่มีไม่มีคำว่าตกยุคเลย ยังคงโดดเด่น สวยงาม เป็นที่ต้องตาต้องใจไม่เคยเปลี่ยน แล้วยังเป็นรุ่นลำดับต้นๆของคนอยากได้รถใหม่มาครอบครองอีกด้วย

ดีไซน์ภายนอกของ Honda Jazz 2023

Jazz รุ่นนี้ได้ออกแบบให้เป็นรถ Hatchback 5 ประตูที่ทันสมัยที่สุด มีรูปทรง MPV กับไอเดียสุดล้ำ Inside Out ได้เน้นไปยังฟังก์ชันการใช้งานภายในที่เป็นส่วนสำคัญภายใต้รถขนาดที่เล็กกะทัดรัดแต่ไม่เล็ก ที่มีความซึ่งเพียง 3,989 มม. (ในรุ่นเกรด RS จะเป็น 4,035 มม.) มีความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,525 มม. และ ฐานของล้อยาว 2,530 มม. รถรุ่นนี้ซิตี้คาร์ทรงสปอร์ต แต่มีระดับการตกแต่ง RS ช่วยให้มีบุคลิกที่สปอร์ตขึ้นด้วยอุปกรณ์ตกแต่งมากมาย ที่สามารถตกต่างได้ตามใจชอบรอบคัน เช่น สเกิร์ตด้านหน้า ข้าง หลัง สปอยเลอร์หลัง รวมถึงล้อด้วย

ดีไซน์ภายในของ Honda Jazz 2023

จะเน้นใช้โทนสีดำเป็นหลัก เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า เป็นผ้าแบบสปอร์ตเย็บด้วยด้ายสีส้มในเกรด RS ส่วนคอนโซลด้านหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา Piano Black ที่วิบวับสวยงาม จุดเด่นของ Jazz คือพื้นที่ภายในที่กว้างขวางอย่างที่ถูกจักกันเป็นอย่างดี เบาะของรถสามารถปรับพับได้มากกว่า 4 แบบด้วยกัน ซึ่งมันสะดวกสบายอย่างที่รถรุ่นอื่นๆไม่มีหรือให้ไม่ได้ ต้องบอกว่าจุดนี้ทางค่ายทำออกมาได้เยี่ยมยอดจริงๆ

เครื่องยนต์และความปลอดภัยของ Honda Jazz 2023
รถรุ่นนี้จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาดความจุอยู่ที่ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT และมีเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ให้เลือกในรุ่น S อยู่ด้วย

เรื่องความปลอดภัยจัดมาเต็มสุดคุ้มเช่นเคย เช่น ถุงลมนิรภัย 4 จุดรอบคัน แล้วในรุ่น TOP มีอยู่ถึง 6 จุด ระบบเบรคเป็น ABS, ระบบควบคุมช่วยในการทรงตัว มีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันได้ดี กล้องหน้ามีมุมมองที่ปรับได้หลากหลาย และ จุดยึดเบาะนั่งของเด็กด้วยมาตรฐาน ISOFIX

ราคาของ Honda Jazz 2023 ซึ่งมี 6 รุ่นย่อย ดังนี้

รุ่น S เกียร์ธรรมดา ราคา 555,000 บาท
รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 594,000 บาท
รุ่น V เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 654,000 บาท
รุ่น V+ เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 694,000 บาท
รุ่น RS เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 739,000 บาท
รุ่น RS+ เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 754,000 บาท
#3

กิ่วแม่ปาน ดอยที่โด่งดังและสวยงามที่สุดของประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวว่าที่นี่เด็ดจริงไม่จกตา เพราะด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ครบครัน ทั้งลมหนาว ธรรมชาติที่สมบูรณ์เขียวขจี วิวแสนสวยงามยามพระอาทิตย์ขึ้น จุดแวะพักชมวิวมากมายตลอดเส้นทาง และอื่นๆที่หลายอย่างที่ทำให้ กิ่วแม่ปานเป็นสถานที่ที่หลายคนชื่นชอบประทับใจจนอยากจะกลับมาเยือนแบบไม่รู้จบ

   สำหรับ กิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สวยงามลำดับต้นๆของประเทศไทย โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวกันในช่วง 1 มิถุนายน – 31 ตุลาคมของทุกปี จากนั้นจะปิดเพื่อทำให้ธรรมชาติฟื้นตัวกลับมาสวยงามเหมือนเดิมอีกครั้ง แล้วหากใครได้มาที่นี่ จะต้องไม่พลาดกับ 5 จุดสำคัญที่จะต้องมาให้ได้

5 จุดไฮไลท์ดีต่อใจ ณ กิ่วแม่ปาน

1.   จุดชมวิว กม.42
จุดแรกคือจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยแบบสุดๆ อยู่ติดถนนหน้าทางเข้ากิ่วแม่ปานที่สามารถมารับชมได้อย่างง่ายดาย ช่วงเวลาที่แนะนำให้มาคือ 05.30-06.00 น. ที่จะได้เห็นแสงแรกกันอย่างชื่นฉ่ำๆ ถ้าได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง มั่นใจได้เลยว่าจะประทับใจจนอยากจะหลุดภาพตรงหน้าไว้ตลอดไปแน่นอน

2.   จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน
นี่คือจุดที่ใครมากิ่วแม่ปานจะต้องมาเก็บภาพตรงนี้ให้ได้ ไม่งั้นจะเรียกว่ามาไม่ถึงที่นี่ก็ว่าได้ เพราะมันคือจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ จะเป็นระเบียงที่ยื่นออกไป สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มตาแบบจุกๆฟินๆกับลมหนาวที่พัดผ่าน จุดนี้คือจุดที่อย่าพลาดเด็ดขาด

3.   แวะชมต้นกุหลาบพันปี
กุหลาบอาจจะหาได้ทั่วไป แต่หากเป็นกุหลาบพันปีจะหาชมไม่ได้ง่ายๆ โดยมีที่กิ่วแม่ปาน ซึ่งจุดเด่นของต้นกุหลาบพันปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียวต่อปีเท่านั้น หากใครโชคดีมาเห็นช่วงออกดอกพอดี จะเห็นสีแดงฉ่ำของกุหลาบอย่างสวยงาม แล้วพอตัดกับวิวของที่นี่ด้วย ยิ่งส่งให้สวยแบบสุดๆจริงๆ

4.   ชมพระธาตุ ณ กิ่วแม่ปาน
กิ่วแม่ปาน มีพระธาตุตั้งอยู่ 2 แห่งคือ พระมหาธาตุนภเมทนีดล กับ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ที่ถูกตกแต่งขึ้นอย่างสวยสดงดงาม เข้าไปบรรยากาศของธรรมชาติที่นี้อย่างกลมกล่อม หากได้มาแนะนำว่าให้เข้าไปกราบไหว้เคารพบูชากันได้ แล้วที่นี่ยังมีพระพุทธรูปอยู่หลายองค์ภายในอีกด้วย

5.   แวะทุกจุดระหว่างทาง
สิ่งสุดท้ายที่อยากแนะนำคือควรแวะให้ครบทุกจุดที่ทางสถานที่ได้เตรียมไว้ เพราะแต่ละที่ต่างมีความโดดเด่น เอกลักษณ์เฉพาะของตัวมันเอง ที่มั่นใจอย่างมากเลยว่าไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอนในการมาเดินศึกษาธรรมชาติหรือมาเดินพักผ่อนเสพหาความสุขใจ ณ กิ่วแม่ปาน
#4

เกาะรอก
เกาะอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดกระบี่ ที่คนรักทะเลต้องมาเที่ยวให้ได้เลย ที่เกาะแห่งนี้ เป็นเหมือนสวรรค์แห่งท้องทะเล ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยรู้จักเกาะรอกเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวแล้ว หากท่านใดอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวทะเลสวยๆ ดูบ้าง ยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวที่ไหนเลย ลองมาสัมผัสทะเลแห่งอันดามันที่เกาะรอกดูสักครั้ง แล้วคุณจะกลายเป็นชอบทะเลตลอดไป

กิจกรรมที่น่าสนใจ

สำหรับท่านที่มาเที่ยวบนเกาะรอก กิจกรรมที่เราอยากแนะนำให้ทุกท่านได้ทำ มีหลักๆ ดังนี้คือ
•   การเดินชมวิว ที่นี่มีหาดทรายที่ขาวสะอาด และน้ำที่ใสมากๆ เหมาะกับการเดินชมวิวที่สุด ยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้าหรือช่วงเย็นด้วย จะเป็นช่วงที่เหมาะมาก เพราะว่าแดดไม่ร้อนด้วย คุณจะรู้สึกผ่อนคลายสุดๆ ประกอบกับความสงบบนเกาะด้วย ยิ่งจะคุณมีความสุขมากขึ้นอีกหลายเท่า
•   ลงเล่นน้ำ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ที่เกาะรอก มีจุดที่จะให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ คือที่เกาะรอกในและเกาะรอกนอก และท่านยังสามารถเดินเข้าไปท่องเที่ยวชมหาด และป่าชายเลยบริเวณนั้นได้ด้วย
•   ชมวิว ที่เกาะรอกมีจุดชมวิวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ ระหว่างทางนั้นท่านจะได้เห็นธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้ จากนั้นก็จะถึงจุดชมวิวที่ผาเสม็ดแดง ที่นี่คุณจะมองแนวปะการังยาวเหยียด ภาพร่องน้ำที่สวยงาม และท้องทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ดูแล้วสวยงามสุดๆ
•   ดำน้ำชมปะการัง คนที่ชื่นชอบความงามใต้ท้องทะเล ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งกับกิจกรรมดำน้ำ เพราะที่ เกาะรอก มีจุดดำน้ำที่สวยงามมาก มีหลายจุดให้ท่านได้ลงดำ ไม่ว่าจะเป็นที่อ่าวม่านไทร จุดดำน้ำลึกกองหินม่วง และจุดน้ำในเกาะรอก แต่ก่อนจะลงดำน้ำ ต้องดูสภาพอากาศให้ดีเสียก่อน

การเดินทาง
ท่านสามารถเดินทางมาได้ทั้งจากจังหวัดตรัง และจังหวัดกระบี่ โดยการนั่งเรือจากท่าเรือปากเมง และท่าเรือบ้านหาดยาว เดินทางไม่เกิน 3 ชั่วโมง ก็จะถึงเกาะรอก จากนั้นท่านก็เข้าพักตามที่พักที่ท่านสนใจได้เลย

ค่าบริการในการเข้าชม ฟรี

ที่พักและอาหาร
เรื่องของที่พักและอาหารบนเกาะรอกก็ไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะว่าที่พักมีอยู่อย่างพอเพียง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเช่า รีสอร์ท มีหลายราคาให้เลือก และร้านอาหารบนเกาะก็มีตัวเลือกให้เลือกเยอะทีเดียว อาหารรสชาติถูกปาก เป็นเกาะที่เรียกว่ามีความสะดวกครบครันสุดๆ อีกเกาะหนึ่งเลย ท่านต้องลองมาเที่ยให้ได้สักครั้งในชีวิต

พิกัดของ เกาะรอก
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่
#5

ประวัติ อาร์เนาท์ ดานยูม่า กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของ บีญาร์เรอัล
ทีมชาติ : เนเธอร์แลนด์ 6 นัด – 2 ประตู (2018-?)
สโมสรปัจจุบัน : บีญาร์เรอัล 51 นัด – 22 ประตู (2021-?)

อาร์เนาท์ ดานยูม่า (Arnaut Danjuma) เกิดวันที่ 31 มกราคม 1997 ที่ประเทศไนจีเรีย เริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร TOP Oss ในปี 2008 จากนั้นย้ายสู่ PSV ไอนด์โฮเฟ่น (2008-2016) แล้วขยับมาอยู่กับ NEC เบรด้า ก่อนจะได้เริ่มต้นอาชีพในฤดูกาล 2016/17 ออกตัวใน เอเรดีวีซี่ (ลีกสูงสุดเนเธอร์แลนด์) ด้วยการยิง 1 ประตูจาก 12 นัด แล้วทีมตกชั้นหลังจบฤดูกาลนั้น

ฤดูกาล 2017/18 อาร์เนาท์ ดานยูม่า ได้รับโอกาสจาก NEC เบรด้า มากขึ้น ได้ลงเล่น Eerste Divisie (เนเธอร์แลนด์ ดิวิชั่น 2) 28 นัด ยิง 11 ประตู แต่ยังไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นได้ อย่างไรก็ตาม จากผลงานดังกล่าวทำให้ คลับ บรูซ ทีมเบอร์ต้นๆของลีกเบลเยี่ยม ซื้อตัวไปร่วมทีมในฤดูกาลต่อมา

ฤดูกาล 2018/19 อาร์เนาท์ ดานยูม่า เป็นตัวหลักของ คลับ บรูซ ตั้งแต่นัดแรก ผ่าน 9 นัดยิง 4 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ แต่หลังจากนั้น โชคร้ายๆได้รับบาดเจ็บ พลาดการลงสนามเกือบทั้งซีซั่น ดีที่ยังหายเจ็บกลับมาเล่นในช่วงเพลย์ออฟลุ้นแชมป์ แต่ไม่เพียงพอต่อการพาทีมคว้าแชมป์ได้ จบแค่อันดับ 2

ฤดูกาล 2019/20 อาร์เนาท์ ดานยูม่า เล่นให้ คลับ บรูซ ได้แค่ 2 นัด ก็ถูก บอร์นมัธ ซื้อตัวไปร่วมทีมในฤดูกาลเดียวกัน แต่จากอาการบาดเจ็บ ทำให้ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีกแค่ 14 นัด (ตัวจริง 6 สำรอง 8) จากนั้นในฤดูกาล 2020/21 ดานยูม่าหายจากอาการบาดเจ็บ แล้วเริ่มต้นฤดูกาล ด้วยการยิง 1 ประตู ช่วยให้ทีมชนะ แบล็คเบิร์น 3-2 จากนั้นยึดตัวหลักของทีมได้อย่างต่อเนื่อง ยิงในแชมป์เปียนชิพ 15 ประตูจาก 33 นัด พาทีมจบอันดับ 5

ฤดูกาล 2021/22 บีญาร์เรอัล จ่ายเงิน 25 ล้านยูโร ซื้อตัว อาร์เนาท์ ดานยูม่า ไปร่วมทีม แล้วเป็นตัวเลือกแรกของทีม แต่อาการบาดเจ็บ ทำให้เขาได้ลงสนามไม่เต็มเม็ดเต็มหน่อย อย่างไรก็ตาม ดานยูม่ายิงถึง 16 ประตู จ่าย 6 แอสซิสต์ จาก 34 นัดรวมทุกรายการ มีส่วนสำคัญในการพาเรือดำน้ำ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ UCL ก่อนจะแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 และ 2-3 จอดป้ายแค่รอบนั้น

ฤดูกาล 2022/23 ดานยูม่า ยังมีอาการบาดเจ็บตามรบกวน ได้ลงเล่นเกมลีกแค่ 10 จาก 18 นัด ก่อนจะถูกส่งให้ สเปอร์ ยืมตัวไปใช้งานในช่วงตลาดเดือนมกราคม ซึ่งตลอดฤดูกาลนั้น ดานยูม่าได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีกแค่ 9 นัด (ตัวจริง 1 สำรอง 8)

ฤดูกาล 2023/24 บีญาร์เรอัล ส่งตัว อาร์เนาท์ ดานยูม่า ไปให้ เอฟเวอร์ตั้น ใช้งาน พรีเมียร์ลีกผ่านไป 4 นัด ได้ลงเล่นทั้ง 4 ทีม มี 1 สกอร์ในเกมเสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-2
#6

ยอดกองหน้าระดับโลกจากอียิปต์ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ชื่อนี้คงเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลก เพราะว่าเขาสร้างชื่อเอาไว้เยอะทีเดียว โดยเฉพาะในนามสโมสร ลิเวอร์พูล ที่เขาเป็นคนพาทีมคว้าแชมป์หลายอย่าง จนกลายเป็นที่รักของแฟนบอล เดอะ ค็อปป์ ทุกคนไปแล้ว

ชื่อเต็ม โมฮาเหม็ด เศาะลาห์ ฮามิด มะห์รูส ซาลาห์
วันเกิด 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี)
สถานที่เกิด นัจญ์รีจญ์ บัสยูน ประเทศอียิปต์
ส่วนสูง 1.75 ม. (5 ฟุต 9 นิ้ว)
ตำแหน่ง ฟุลแบ็ก / ปีก

เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ชีวิตของนักฟุตบอลอาชีพของ ซาลาห์ เริ่มต้นจากการเล่นบอลในทีมท้องถิ่น เหมือนกับเด็กทั่วไป จนในปี 2010 เขาได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมเยาวชนของ เอล โมคารุน แม้ว่าจะอยู่ห่างบ้านของเขาสักเพียงใด ซาลาห์ ก็ไม่เคยหวั่น เพราะเขารักในกีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว หลังจากที่ได้เข้าไปอยู่ในทีมเยาวชน เขาก็พัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นที่จับตามองของทีมดังหลายทีมจากทั่วโลก

และกลายเป็นทาง บาเซิ่ล นั่นเอง ที่ได้ตัวของ ซาลาห์ ไปร่วมทีมด้วย  เพราะเห็นความมุ่งมั่นของซาลาห์ ซึ่งน่าจะทำผลงานให้กับทีมได้ หลังจากทำการฝึกซ้อมอย่างหนัก เขาก็ได้ขึ้นมานั่งในชุดสำรองของชุดใหญ่แล้ว นั่นคือโอกาสในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ หลังจากนั้นเขาก็ลงเล่นให้กับ บาเซิ่ล เป็นนัดแรก และก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ตอนนี้

ต่อมาสโมสร เชลซี ได้ซื้อตัวของ ซาลาห์ ไปร่วมทีม ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ แต่ที่นี่เขาต้องแข่งกับอีกหลายคน ทำให้โอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริงของเขา ยากลำบากมาก จนในที่สุด เขาก็ได้ลงเล่นไปทั้งหมดแค่ 13 นัดเท่านั้น เลยย้ายไปเล่นให้กับ ฟิออเรนติน่า ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าครั้งที่อยู่กับ เชลซี แล้วก็ย้ายไปอยู่กับ โรม่า อีก ด้วยสัญญาการยืมตัว

แต่หลังจากนั้น ซาลาห์ ก็ได้กลับมาที่อังกฤษอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้มาอยู่ในเสื้อของ ลิเวอร์พูล ด้วยการซื้ออย่างเป็นทางการด้วยเงินค่าตัว 42 ล้านปอนด์ และก็ไม่ผิดหวัง ซาลาห์ ระเบิดฟอร์มของเขาไม่ยั้ง จนทำให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่อันตรายที่สุดในยุโรป และคว้าแชมป์สำคัญหลายถ้วยมาครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ในปี 2019-2020 และแช้มป์ ยูฟ่า ในปี 2019 อย่างยิ่งใหญ่

รางวัลส่วนตัว

•   Premier League Player of the Month : พฤศจิกายน 2017, กุมภาพันธ์ 2018, มีนาคม 2018
•   PFA Player of the Month : พฤศจิกายน 2017, ธันวาคม 2017, กุมภาพันธ์
•   African Footballer of the Year : 2017, 2018
•   BBC Goal of the Month : ธันวาคม 2017, กุมภาพันธ์ 2018, เมษายน 2019, กันยายน 2019
•   Goal's Arab Player of the Year : 2017 , 2018
•   PFA Players' Player of the Year : 2017-18
•   FWA Footballer of the Year : 2017-18
•   Premier League Golden Boot : 2017-18 , 2018-19
•   Premier League Player of the Season : 2017-18
•   PFA Team of the Year : 2017-18
#7

อีธาน พินน็อค กองหลังทีมชาติจาไมก้าของ เบรนท์ฟอร์ด
ทีมชาติ : จาไมก้า 6 นัด – 0 ประตู (2021-?)
สโมสรปัจจุบัน : เบรนท์ฟอร์ด 155 นัด – 8 ประตู (2019-?)

อีธาน พินน็อค เกิดวันที่ 29 พฤษภาคม 1993 ที่ประเทศจาไมก้า เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับ Glebe ต่อด้วย มิลวอลล์ และ Dulwich Hamlet จากนั้นในฤดูกาล 2010/11 ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ Dulwich Hamlet ได้ลงเล่นเกมลีกอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมายึดตัวหลักได้ในฤดูกาล 2013/14 ลงเล่น 38 นัดรวมทุกรายการ ยิง 1 ประตู อยู่กับทีมถึงฤดูกาล 2015/16 ลงเล่นทั้งหมด 195 นัด ยิง 7 ประตู แต่ไม่ประสบความสำเร็จอะไร

ฤดูกาล 2016/17 อิธาน พินน็อค ย้ายไปอยู่กับ ฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ กลายเป็นตัวหลักของทีม ลงเล่น 45 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู จากผลงานดังกล่าวทำให้ บาร์นสลีย์ (แชมป์เปียนชิพ) ดึงตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2017/18 ได้ลงเล่นเพียง 18 นัดในฤดูกาลแรก ก่อนจะยึดตัวหลักในฤดูกาล 2018/19 ได้ลงเล่นมากถึง 52 นัดรวมทุกรายการ

ฤดูกาล 2019/20 เบรนท์ฟอร์ด จ่ายเงิน 3 ล้านปอนด์ ซื้อตัว อีธาน พินน็อค ไปร่วมทีม แล้วกลายเป็นตัวหลักของทีมทันที ลงเล่น 42 นัดรวมทุกรายการ ยิง 2 ประตู จากนั้นในฤดูกาล 2020/21 ยังยึดตัวหลักของทีมอย่างต่อเนื่อง โดยยืนเป็นแนวรับตัวหลักร่วมกับ เมดส์ เบด โซเรนเซ่น, ริโก้ เฮนรี่ และ เฮนริค เดลส์การ์ด พาทีมจบที่ 3 ในฤดูกาลปกติ แล้วเพลย์ออฟชนะ สวอนซี 2-0 คว้าตั๋วสู่พรีเมียร์ลีก 2021/22

ฤดูกาล 2021/22 อิธาน พินน็อค ยืนเซนเตอร์ร่วมกับ พอนตัส ยานสัน ลงเล่น 35 นัดรวมทุกรายการ ยิง 1 ประตู ซึ่งประตูดังกล่าว เกิดขึ้นวันที่ 25 กันยายน 2021 ช่วยให้ เบรนท์ฟอร์ด แบ่งแต้ม ลิเวอร์พูล 3-3 ซึ่งเกมนั้น พินน็อคยืนเป็นสามเซนเตอร์ร่วมกับ คริสโตเฟอร์ อาเยอร์ และ พอนตุส ยานสัน

ฤดูกาล 2022/23 อิธาน พินน็อค ไม่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีก 9 นัดแรก จากนั้นในอีก 30 นัดที่เหลือ ได้ลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัด อยู่ครบ 90 นาทีทุกนัด ยิงได้ 3 ประตู ในเกมกับ ฟูแล่ม (ชนะ 3-2) ไบรท์ตั้น (เสมอ 3-3) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ชนะ 1-0) พาทีมจบที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล 2023/24 อิธาน พินน็อค ยังอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด เช่นเดิม ลงเล่นไปแล้ว 3 นัด (ตัวจริง 3)

ในส่วนของการเล่นทีมชาติ อิธาน พินน็อค เปิดตัวกับ ทีมชาติจาไมก้า วันที่ 25 มีนาคม 2021 ขณะอายุ 27 ปี 9 เดือน ในเกมอุ่นเครื่องที่แพ้ สหรัฐ 1-4 โดยเขายืนเซนเตอร์คู่กับ เลียม มัวร์ ขนาบข้างด้วย อมารี่ เบล และ อาเดรียน มาเรียปป้า ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 64
หลังผลงานไม่ดีในการเปิดตัว อิธาน พินน็อค ไม่ติดทีมในรายการ คอนคาเคฟ โกลด์คัพ 2021 รวมถึงหลุดจากทีมในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 เกือบทุกนัด ได้ลงเล่นแค่นัดเดียวในเกมแพ้ ปานามา 0-3 ซึ่งทีมชาติจาไมก้า ก็ไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย
#8

ในแต่ละปีจะมีการเปิดเผยของมูลค่าของทีมฟุตบอลบนโลก ว่าแต่ละทีมเป็นอย่างไรกันบ้าง โดยนำเอาทุกข้อมูลที่สำคัญเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ผลงานความสำเร็จ ฐานแฟนบอลทั้งหมด สินค้าที่สโมสรขายได้ และ บรรดานักเตะทั้งหมดในทีม นี่คือหลักการคร่าวๆที่จะนำมาวิเคราะห์กันแต่ละทีม ซึ่งผลลัพธ์ออกมาคือจำนวนมูลค่าของทีมนั้นๆ และในปี 2023 ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ว่าทีมไหนที่เป็นทีมฟุตบอลที่แพงที่สุดหรือมูลค่าสูงที่สุดในโลก

Forbes นิตยสารด้านการเงินชื่อดังของโลก ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ถึงทีมฟุตบอลใน 10 อันดับแรกจากการประเมินด้วยข้อมูลทุกอย่าง โดยผลออกมาอันดับ 1 ก็คือแชมป์เก่าที่ครองตำแหน่งนี้เมื่อปี 2022 ได้แก่ เรอัล มาดริด ยอดทีมชื่อดังแห่งสเปน ที่ในปี 2023 นี้ ยังคงไม่ยอมเสียแชมป์ไป ส่วนอันดับ 2 คือทีมยอดมหาชนที่มีแฟนบอลเยอะที่สุดในโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พึ่งจะคว้าแชมป์แรกในรอบ 6 ปีไปสดๆร้อนๆ ส่งผลให้ทีมมีมูลค่าสูงขึ้นจากเดิมไม่น้อย ส่วนที่ 3 ยังคงเป็นทีมจากสเปน นั่นก็คือ บาร์เซโลน่า ที่แม้ว่าทีมจะประสบปัญหาเรื่องการเงินภายใน แต่เมื่อถูกประเมินออกมาแล้ว ยังคงติดอยู่ใน TOP 3 อย่างแข็งแกร่ง

สรุป 10 ทีมฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกของปี 2023

1. เรอัล มาดริด มูลค่าที่ถูกประเมิน 4,900 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 210,700 ล้านบาท

2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มูลค่าที่ถูกประเมิน 4,800 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 207,000 ล้านบาท

3. บาร์เซโลน่า มูลค่าที่ถูกประเมิน 4,400 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 189,200 ล้านบาท

4. ลิเวอร์พูล มูลค่าที่ถูกประเมิน 4,200 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 180,600 ล้านบาท

5. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มูลค่าที่ถูกประเมิน 4,000 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 172,000 ล้านบาท

6. บาเยิร์น มิวนิค มูลค่าที่ถูกประเมิน 3,900 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 167,700 ล้านบาท

7. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มูลค่าที่ถูกประเมิน 3,400 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 146,200 ล้านบาท

8. เชลซี 2,500 มูลค่าที่ถูกประเมิน ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 107,500 ล้านบาท

9. สเปอร์ส มูลค่าที่ถูกประเมิน 2,200 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 94,600 ล้านบาท

10. อาร์เซน่อล มูลค่าที่ถูกประเมิน 1,800 ล้านปอนด์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 77,400 ล้านบาท


ทั้งนี้ต้องมาคอยลุ้นจับตาดูว่าในปี 2024 เรอัล มาดริด จะยังคงครองแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันเอาไว้ได้หรือไม่ หรือจะเป็นทีมอื่นๆ อย่าง แมนยูหรือบาร์เซโลน่า ที่มาฉกฉวยอันดับ 1 ของโลกไปจากพวกเขาในที่สุด
#9

หน้าฝนเป็นฤดูกาลที่เที่ยวไม่ได้ง่าย เพราะหากฝนตกเมื่อไหร่จะทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนลำบากทันที ทั้งยังทำให้ที่เที่ยวกลางแจ้งแต่ละอย่างแทบจะไปไม่ได้ แต่หากอยากจะเที่ยวช่วงหน้าฝนล่ะก็ มีหนึ่งสถานที่แนะนำที่ควรค่าแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจอย่างมาก โดยไม่ต้องกังวลว่าฝนจะตกหรือไม่ตก ที่แห่งนั้นก็คือ เขาใหญ่ สถานที่เที่ยวสุดยอดนิยมที่เดินทางได้สะดวกง่ายดาย ทั้งยังมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะฤดูไหนๆไม่เว้นแม้แต่หน้าฝน

เหตุผลที่ควรมาเขาใหญ่ เพราะที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลายแบบหลากหลายประเภทที่ต้องการ เช่น การเดินชมธรรมชาติที่สวยงาม กิจกรรมผจญภัยสุดสนุก คาเฟ่น่ารักสวยงามกระจายอยู่ทั่วทั้งหุบเขา หรือจะมาพักผ่อนสบายๆไม่ไปไหน ก็มีที่พักให้เลือกมากมายตามใจชอบที่ครบครัน เรียกได้ว่ามีที่นี่ครบจบในที่เดียวจริงๆ และไม่ว่าช่วงหน้าฝนหรือว่าฝนกำลังตกอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรเขาใหญ่ได้ ยิ่งฝนตกจะยิ่งช่วยทำให้ธรรมชาติสวยสดงดงามตราตรึงใจมากเข้าไปอีก แล้วอากาศที่นี่ที่ดีมากๆอยู่แล้ว จะยิ่งสดชื่นไปอีกเท่าตัว

แนะนำที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเขาใหญ่ช่วงหน้าฝน

- บ่อน้ำผุด บ่อน้ำพุธรรมชาติที่บ้านท่าช้าง
ที่นี่ในช่วงหน้าฝนจะสวยงามเป็นพิเศษ เพราะน้ำจะเยอะกว่าปกติ แล้วน้ำที่นี่จะยังเป็นน้ำพุดจากธรรมชาติที่ใสเขียวสีมรกตอย่างมาก รายล้อมไปด้วยป่าเขาแสนสดชื่น ช่วยทำให้ที่นี่สวยเกินบรรยายไปอีก
- หอดูสัตว์กลางเขา ที่หนองผักชี
หอดูสัตว์ที่ตั้งอยู่กลางป่าเขา ซึ่งสนุกน่าสนใจตั้งแต่ต้องเดินเท้าเข้าไปแล้ว เพราะจะต้องเดินมายังที่นี่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติเขียวขจีในช่วงหน้าฝน แล้วพอมาถึงที่มีต้องขึ้นไปข้างบนหอ จะมีโอกาสได้พบสัตว์ป่าตามธรรมชาติมากมาย เช่น กระทิง ช้าง กวาง เก้ง และอีกมาย เป็นความธรรมชาติที่หาที่ไหนได้ยากในประเทศไทย

-อ่างเก็บน้ำ ที่สายศร
อ่างเก็บน้ำประจำเขาใหญ่คือที่นี่ แล้วโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนต้องบอกว่าดีต่อใจแบบสุดๆ เพราะจะมีน้ำเยอะกว่าฤดูอื่นๆ บนผิวน้ำจะมีไอหมอกอยู่ตลอดเวลา มีความสดชื่นอยู่ล้อมรอบเมื่อได้มาสัมผัส มีจุดนั่งชมธรรมชาติพักผ่อนได้อย่างสุดสบาย แล้วยังมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าหลากหลายชนิดที่นี่ด้วย เพราะพวกมันจะออกมากินน้ำนั่นเอง อาที ลง กวาง นกต่างๆ เป็นต้น เรียกได้ว่าการได้มาพักผ่อนสบายๆยังอ่างเก็บน้ำสายธรมันคุ้มค่าเกินคาดจริงๆ
#10

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อีกหนึ่งเกาะที่มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษของจังหวัดพังงา และไม่เหมือนใคร ทำให้เกาะแห่งนี้ กลายเป็นแลนด์มาร์คที่คนอยากจะมาเช็คอินมากที่สุด มาเที่ยวที่นี่ คุณจะได้พักผ่อนให้กับชีวิตได้อย่างดีทีเดียว มีกิจกรรมมากมาย ที่คนรักการท่องเที่ยวต้องมาลองดูสักครั้ง ถ้าคุณกำลังหาที่เที่ยวแนวทะเล หรือเกาะสวยๆ อยู่ล่ะก็ มาที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ไม่มีคำว่าผิดหวัง เรามาดูรายละเอียดของเกาะแห่งนี้กันก่อน ว่าน่าสนใจอย่างไรบ้าง เผื่อใครอยากจะลองไปเก็บประสบการณ์ดูสักครั้ง

สำหรับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ขึ้นชื่อมากที่สุดเรื่องของความงามของท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นใต้น้ำ หรือบนเกาะก็ดี สภาพแวดล้อมของเกาะที่นี่ ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์มาได้โดยตลอด มีพืชและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำมากมายให้คุณได้ลงไปสำรวจ และชมความงาม จนเกาะแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้น ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว สายเก็บภาพสวยๆ บอกเลยว่าจุใจแน่นอน

กิจกรรมที่น่าสนใจ 
ถ้ามาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ สิ่งที่เป็นไฮไลต์เลยก็คือ การดำน้ำชมสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ และความสวยงามของปะการังต่างๆ มีให้เลือกดำได้หลายอ่าว ไม่ว่าจะเป็น อ่าวช่องขาด,อ่าวแม่ยาย,อ่าวไม้งาม และอ่าวสุเทพ แต่ละที่ก็จะมีเอกลักษณ์ต่างกัน หรือท่านจะดำทุกอ่าวเลยก็ได้ และท่านยังสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านของชาวมอแกนได้ด้วย ซึ่งยังใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมอยู่ วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ ก็จะประกอบอาชีพประมงกันเป็นหลัก ท่านจะได้ภาพสวยๆ กลับไปเพียบเลยแหละ

ที่พักและอาหาร
ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ มีที่พักให้เลือกทั้งแบบที่เป็นบ้านพัก และแบบกางเต้นท์นอน ซึ่งมีให้เช่า ตั้งแต่ราคาหลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน ส่วนเรื่องอาหารการกินก็เยอะมาก ทั้งร้านอาหารที่เป็นของบ้านพัก รีสอร์ท นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารบนเกาะให้เลือกซื้ออย่างเพียงพอ รสชาติอาหารก็ถูกปาก

การเดินทาง
ท่านสามารถเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เดินทางมาได้ทั้งรถยนต์ รถโดยสาร เครื่องบิน และรถไฟ แต่หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวต้องขึ้นเรือ เพื่อเดินทางต่อไปยังอุทยาน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถึงเกาะ ซึ่งเรือแต่ละประเภท ก็จะใช้ระยะเวลาในการวิ่งที่แตกต่างกัน

ค่าบริการในการเข้าชม
ฟรี เสียเฉพาะค่าที่พัก อาหาร ค่าเดินทาง และอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ

สถานที่ตั้งของ
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ที่ ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา 82150
โทรศัพท์ : 0 7647 2145, 0 7647 2146